●● ท่องเที่ยววันหยุด วาไรตี้แสนสนุก! เรื่องราวฮอตฮิต! สิ่งที่คุณเห็น...จะทำให้คุณต้องตะลึง คลิ๊ก! ●●

หาเพื่อน หาแฟน หาคู่

เล่นเกมส์

ดูดวง

สูตรวิเศษ สาระน่ารู้ เรื่องสุขภาพ

งาน - อาชีพเสริมทำเงินล้าน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลึงเศรษฐกิจพอเพียง!!  (อ่าน 1736 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Adminis

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1206
  • ถูกใจ 116
    • เมทไทยดอทคอม | MateThai
ตะลึงเศรษฐกิจพอเพียง!!
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2014, 02:24:39 PM »
ตะลึงเศรษฐกิจพอเพียง!!

บทความอ่านง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถอ่านได้
บทความดี ๆ ที่จะทำให้คุณต้องตกตะลึง
เอามาฝากกันครับ ตึ้ง ตึง ๆ ตลึง ๆ ๆ !!!

“เมื่อผมต้องตกตะลึงกับเศรษฐกิจพอเพียงที่หลังบ้านผม”

http://www.cash.holidaytours.in.th/investment/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87

ออฟไลน์ หาเพื่อนคุย

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
  • ถูกใจ 6
Re: ตะลึงเศรษฐกิจพอเพียง!!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 04:16:51 PM »
อ่านง่าย สนุก มีประโยชน์แต่ยาวไปหน่อยครับ
เอาที่สรุปมาเลยแล้วกันครับ
แต่ผมว่า ก็ยังยาวอยู่ดีนะ
 :wanwan004:

อ้างถึง
ผมนอนย่อยความคิดอยู่นาน และพอจะสรุปออกมาได้ว่า

1. ผมไม่ควรสร้างกับดักทางความคิดให้กับตนเอง
- ผมมัวแต่จดจ่ออยู่กับละแวกร้านขายส่ง
ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นแหล่งขายส่งที่น่าจะให้ราคาถูกที่สุด
แต่ผมลืมไปตรวจสอบดูว่า มีที่อื่นที่ขายถูกกว่าอีกหรือไม่,
ซึ่งภรรยาผมไม่ได้ละเลยความเป็นไปได้ในข้อนี้

ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าไปซื้อจากโรงงานโดยตรง
ราคาที่ได้ย่อมจะต้องถูกกว่าแน่นอน
แม้ว่าจะต้องซื้อเป็นปริมาณที่เยอะกว่า แต่มันก็คุ้มที่จะซื้อ
ผมมัวแต่คิดว่า คงไม่มีทางไปหาโรงงานผลิตเจอหรอก
(เพราะร้านขายส่งคงไม่ยอมบอกผมแน่ๆ)
แค่เจอแหล่งขายส่งก็ดีถมไปแล้ว

2.เป็นโอกาศที่จะขายถูกกว่าคู่แข่ง
ก็ผมได้ราคาโรงงานนี่นา แถมโรงงานก็ลับแลซะขนาดนี้
คงมีคู่แข่งไม่กี่คนที่จะมาเจอร้านนี้เหมือนกับผม
นี่เป็นจึงเป็นโอกาศทางการขายที่สุดยอด
เพราะผมน่าจะได้ต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งคนอื่นๆไปอีกนาน

3.โชคดีที่ผมไม่ใส่อาละวาดภรรยา
ทั้งๆที่เธอพยายามขัดขวาง
การซื้ออย่างขาดสติของผมด้วยความกล้าหาญ…
และสุดท้ายเราได้ราคาโรงงาน
เพราะคติประจำใจของผมที่ว่า
“คุณ(ภรรยา)มักจะถูกมากกว่าผิด” ช่วยผมไว้แท้ๆเชียว

4. เปิดใจกว้างรับความคิดเห็นอื่นๆ
- เรื่องนี้พูดง่ายแต่ทำยาก ยิ่งคนที่ให้ความเห็นเป็นภรรยารักของผม ซึ่งที่ผมคิดว่าไม่น่าจะรู้เรื่องแถวนี้ดีกว่าผมยิ่งแล้วใหญ่

-เหมือนที่ปีเตอร์ ลินซ์ ชอบล้อเลียนว่า
สามีที่โง่ในเรื่องหุ้น มักชอบดูถูกภรรยาตัวเองว่าไม่รู้เรื่องเงินๆทองๆ
ทั้งๆที่คำแนะนำของภรรยานั้น
ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่านายหน้าค้าหุ้นเสียอีก
ซึ่งคราวนี้ ผมเจอกับตัวเองเลยครับ

5. ยังมีโอกาศที่ผมจะได้เจอร้านดีๆ หรือโรงงานดีๆ
ในที่ๆผมยังมองไม่เห็น หรือไม่เคยสนใจอยู่อีกมากครับ
ในหัวผมคิดถึงภาพร้านค้าที่ผมเดินผ่านกลับมาจากโรงเรียนตอนประถม
แม้ผมจะไม่ได้เดินผ่านแถวนั้นอีกแล้ว แต่ผมก็ขับรถผ่านทุกวัน
ร้านค้าที่ผมเคยเห็น ส่วนใหญ่ก็ยังคงเปิดกิจการอยู่
โดยเฉพาะร้านขายของเล่นเพื่อการศึกษานั้น เปิดเพิ่มเป็นสองห้องแล้ว
ผมน่าจะรีบหาเวลาเข้าร้านไปดูของเล่นสำหรับเด็ก เพราะร้านนี้ขายของเล่นเยอะมาก
ที่สำคัญ,ตอนนี้ ผมไม่กลัวเจ้าหุ่นไม้โชว์ตับไตไส้พุงแล้วครับ
และผมสังเกตเห็นว่า ทางร้านก็ได้ยกเจ้าหุ่นไม้นั้นออกไปแล้ว
จะเพราะขายได้ หรือเพราะทางร้านเพิ่งจะคิดได้ว่า
หุ่นไม้ตัวนี้นั้น มันไม่เรียกแขกเลยก็สุดที่จะรู้

ส่วนร้านขายเทปธรรมะที่ผมเคยเดินผ่านก็ยังอยู่
ไม่รู้คุณป้าจะยังแข็งแรงอยู่มั้ย?
ไม่รู้ป่านนี้คุณป้าจะเปลี่ยนเป็นผลิตซีดีแล้วรึยัง?
เพราะถ้ายังเป็นเทป ผมคงเอามาขายที่อีเบย์ไม่ได้แน่ๆเลย (ฮา)

6. คำพูดที่เจ้าของโรงงานพูดกับผม – ผมคิดว่านี้เป็น “เศรษฐกิจพอเพียง” อย่างแท้จริง
ผมต้องถือว่า เจ้าของโรงงานนั้นเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
เขามีลูกค้ามากมาย มีรายได้สม่ำเสมอ
ผมเชื่อว่า เขาคงมีรายได้มากพอที่จะเป็นเศรษฐีย่อยๆคนหนึ่งได้
แต่เขาก็ยังดูเหมือนคนติดดินธรรมดา
เขาไม่ต้องปวดหัว เรื่องพนักงานทำยอดขายไม่ได้
เพราะเขามีความสุขเมื่อลูกค้าที่เป็นเหมือนทั้งญาติและพนักงานขายส่วนตัวของเขา
กลับมาหาเขาเพื่อซื้อสินค้าไปขายต่ออีกที
เขาไม่เคยเสียใจที่เขาไม่ขยายกิจการให้ใหญ่โต เขารู้ “ขอบเขต” ของตัวเขาดี
ซึ่งหากวันนี้ เขามีกิจการใหญ่โต, เขาก็อาจจะมีปัญหาที่ต้องปวดหัวมากกว่านี้ก็ได้

7. แล้วผมสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะ??
ผมรู้ว่า ผมมีความรู้ทางอินเตอร์เน็ต,
แล้วถ้าหากผมลองมองหาสินค้า จากร้านค้าใกล้ๆบ้าน แล้วนำมาขายทางอินเตอร์เน็ต (อีเบย์)ล่ะ?
จะเป็นการช่วยเหลือสังคมรอบตัวใช่มั้ย?
ผมคงจะได้รู้จักกับคนใกล้บ้านมากกว่านี้
วันนี้ผมอาจจะไม่รู้จักชื่อของพวกเขา หรือยังจำหน้าพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่วันหน้าผมอาจจะเป็นลูกค้าของพวกเขา
และอาจจะจำชื่อและจำหน้าของเพื่อนบ้านได้ทุกคนด้วยใช่มั้ยครับ?
ต่อไป หาลูกผมโตขึ้นและต้องเดินไป/กลับโรงเรียนเอง
เพื่อนๆบ้านของผมก็น่าจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้ลูกผมด้วยจริงมั้ยครับ?
ที่สำคัญ, ร้านแถวบ้านผมนั้น เต็มไปด้วย อากงอาม่า ที่ไม่ได้รู้เรื่องการขายผ่านอินเตอร์เน็ตเลย
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเข้าไปที่ร้านขายและซื้อของๆพวกเขาบ่อยๆ?
ผมก็คงไม่ต้องมีคลังสินค้า เพราะมีคลังสินค้าอยู่ใกล้ตัว
แถมผมคงจะรู้สึกดีมากที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผม และเพื่อนบ้านๆปพร้อมๆกัน
บางที ผมอาจจะหวังที่จะช่วยสร้างรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขแก่คนใกล้ๆตัว
เหมือนที่เจ้าของโรงงานคนนั้นทำอยู่ก็เป็นได้

ผมจึงตัดสินใจว่า ผมต้องหาโอกาศ ลองพาลูกไปเดินเล่นแถวๆบ้านให้ละเอียดกว่านี้
ผมน่าจะเพิ่มความกล้า ในการหันหน้าเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนละแวกบ้านให้มากกว่านี้
และถ้าผมมีเวลา ผมก็น่าจะลองไปเดินเล่นให้ไกลขึ้นอีก

ไม่แน่ว่า ผมอาจจะได้พบกับสิ่งดีๆ ที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ใกล้บ้านของผมก็เป็นไปได้