●● ท่องเที่ยววันหยุด วาไรตี้แสนสนุก! เรื่องราวฮอตฮิต! สิ่งที่คุณเห็น...จะทำให้คุณต้องตะลึง คลิ๊ก! ●●

หาเพื่อน หาแฟน หาคู่

เล่นเกมส์

ดูดวง

สูตรวิเศษ สาระน่ารู้ เรื่องสุขภาพ

งาน - อาชีพเสริมทำเงินล้าน

ผู้เขียน หัวข้อ: ร่างกายแข็งแรงสำคัญมากกว่าความมั่งมีอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันดีกว่า  (อ่าน 382 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ManUThai2017

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9059
  • ถูกใจ 0
  • เพศ: ชาย
สิ่งที่เราควรจะใส่ใจไว้เสมอว่า รวยสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงกว่ารวยเงิน อีกทั้งสุขภาพร่างกายและก็สุขภาพที่เกิดขึ้นกับจิตการบรรลุเป้าหมายด้านการเงินจะไร้สาระอะไรเลยถ้าสุขภาพย่ำแย่ไป และบางโอกาสจำเป็นต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่าหมอจนกระทั่งหมดคนบางบุคคลเพียรพยายามคิดเงินมาตลอดชาติ แม้กระนั้นปล่อยให้สุขภาพชำรุด และก็พบว่าเงินทั้งหมดทั้งปวงที่หามาไม่สามารถที่จะซื้อสุขภาพไว้ได้ก็เลยจะต้องเสียชีวิตไปอย่างทุกข์ทรมานสาหัสโดยทั่วไปแล้วหากได้รับพรดีเลิศ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่มนุษย์เรามักจะอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพแข็งแรงจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้มีครอบครัวที่ดีและขอให้มั่งคั่งแต่ถ้าเกิดมีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงแต่ข้อเดียวสิ่งที่จะต้องเลือกเป็นอันดับแรกๆคือการมีสุขภาพที่ดี ด้วยเหตุว่าถ้าหากมีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือรวยแค่ไหนก็ไม่มีสาระ ซ้ำยังเป็นภาระหน้าที่ให้คู่ควงหรือครอบครัวจำต้องมารอดูแลอีกร่างกายที่แข็งแรง เป็นการบรรลุผลที่ประเมินมูลค่ามิได้ แต่ว่าหาได้น้อยมากที่คนไหนกันแน่จะหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างเอาจริงเอาจัง จวบจนกระทั่งจะป่วยหนักขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึกแม้กระนั้นก็มักจะสายเกินไปการบรรลุเป้าหมายในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ควง การศึกษาการงาน การเงิน อื่นๆอีกมากมาย จะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าหากไม่มีสุขภาพที่แข็งแรง ปัญหาด้านสุขภาพสามารถทำลายการบรรลุเป้าหมายทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีมาไดภายในเวลาอันเร็ว
ความสุขของผู้ที่ยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสำราญที่ได้มาจากการกระตุ้นประสาทสัมผัสนั่นเอง ทั้งรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ดวงใจ ส่งผลให้เกิดสุขเวทนา ราคะ อุปาทานด้วยเหตุนั้นเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสำราญที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปโดยทันที จะมีสาระอะไรหากมีเงินซื้อหน้าจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแต่ว่าตามองไม่เห็นจะมีสาระอะไรกับการท่องเที่ยวต่างถิ่น ในขณะที่ตัวเองเดินไม่ได้ จะมีสาระอะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าหากตนเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคนสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจะดูแจ่มใส หน้าตาผ่องใส มีพลังกายกำลังใจสูง ซึ่งจะมีผลทางอ้อมไปสู่การบรรลุผลด้านอื่น ๆ อีกด้วยมนุษย์เรามักไม่ค่อยทราบดีว่า สิ่งที่ตัวเองครองอยู่มีค่าแค่ไหนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นสิ่งมีราคาที่สุดในชีวิต แต่บางคนไม่เคยถนอมและก็ดูแลเลย จนถึงเมื่อป่วยหนักขึ้นมาจึงค่อยใส่ใจ แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะแก้ไขหรือแม้จะบำบัดรักษาได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเยอะๆบางครั้งบางคราวบางทีอาจเป็นเงินเก็บตลอดชีวิตเลยก็ได้
ถึงแม้ว่าโรคภัยไข้เจ็บบางจำพวกจะมีเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมียีนแฝงที่กระตุ้นให้เกิดโรคซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แม้กระนั้นยีนนี้จะไม่ทำงาน หากปราศจากการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (Promoter) ตัวอย่างเช่น คนที่มียีนมะเร็งปอดซ่อนเร้นอยู่ แม้กระนั้นถ้าหากดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะไม่สูบบุหรี่ อุตสาหะหลีกเลี่ยงควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปท้ายที่สุด ไม่สามารถที่จะแสดงผลได้ โรคจำนวนมากไม่ได้มีผลมาจากกรรมพันธุ์ทั้งยังร้อยเปอร์เซ็นต์ สภาพแวดล้อมก็เป็นสาเหตุก่อโรคได้เช่นเดียวกัน ถ้าเกิดรู้สึกตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่โรคประสาท เพราะเหตุว่ามีประวัติคนภายในครอบครัวป่วยไข้ก็จำต้องเฝ้าระวัง พยายามศึกษาหาข้อมูลการกระทำตน เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้มีการเกิดโรค แม้มีโรคประจำตัวที่หลีกเลี่ยงมิได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นค่อยได้การจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้เราไว้อย่างกล้าแกร่งมากมาย ชู อย่างเช่น “ฟัน” สามารถบดบดได้ตรงเวลา 70 ปีโดยที่จะเกิดการสึกเพียงเล็กน้อย ถ้านำเหล็กขนาดเท่ากับฟันมาสีกัน น่าเชื่อว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดจนกระทั่งหมดไป แม้กระนั้นขณะนี้ก็มีบุคคลที่ฟันผุ ฟันเสียกันมากมาย ไม่ใช่เนื่องจากว่าธรรมชาติดีไซน์มาไม่ดี แต่ว่าด้วยเหตุว่าคนที่ใช้ปล่อยทิ้งดูแลรักษา เหมือนกันกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้กระทั้งเส้นโลหิต ถือว่าเป็นประติมากรรมลำดับสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้อย่างต่ำ 100 ปี แม้กระนั้นด้วยการดำรงชีพอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างกะทันหันทันทีทันใดคืออุบัติเหตุแม้จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงแค่ไหนแต่ว่าเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านของสุขภาพทันที รวมทั้งบางครั้งถึงขนาดสูญเสียอวัยวะ เป็นพระราชโอรสนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยคุ้มครองได้ พากเพียรหมั่นฝึกรุ่งเรืองสติอยู่เป็นประจำ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้กระนั้นมีต้นเหตุที่เกิดจากกรรมเก่า คนเราสามารถเอาชนะกรรมได้ด้วยสติ ตามที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนาการเข้าฌาน”ตามแนวความคิดของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ทางด้านจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นอันดับแรก ได้แก่ อาหาร ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอนหลับ อื่นๆอีกมากมาย ตราบใดที่ความอยากได้ในระดับที่ถือว่าต่ำสุดนี้ยังมิได้รับการโต้ตอบ จะไม่มีความฝันไปถึงความประสงค์ในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งแม้ว่าจะบรรลุผลสำเร็จในชีวิตแค่ไหน ถ้าเกิดความต้องการขั้นต้นนี้ไม่ได้รับการตอบสนองก็จะกล่าวโทษสุขมิได้ ดังเช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน อื่นๆอีกมากมาย ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะเห็นได้ว่า แม้กระทั้งสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การร่ำรวยเป็นพันล้านแต่ว่ามีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือใจ ในที่สุดเงินที่มีก็ซื้อความสบายไม่ได้
ความสบายที่จริงจริงมาจากสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า สภาพแห่งสุข เมื่ออายุมากขึ้นจะรู้ว่าสุขภาพที่ดีมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งผอง แม้มีชีวิตที่ไม่ได้มั่งคั่งอะไร แม้กระนั้นมีสุขภาพดีก็จะมีความสุข การดำรงชีวิตของมนุษย์ในตอนนี้ ถ้าเปรียบเทียบแล้ว สบายและก็ดีมากกว่าฮ่องเต้ในสมัยโบราณด้วย ยุคนั้นไม่มีส้วมแบบบ้านในปัจจุบัน จะต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม แอร์ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง มีแม้กระนั้นสมุนไพรซึ่งได้ผลการดูแลรักษาไม่แน่นอนซึ่งคนที่ตรากตรำที่สุดในโลกตอนนี้ก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็อยากได้มีร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว และก็มองอ่อนกว่าวัย ก็เลยคัดเลือกกลเม็ดสำหรับเพื่อการชะลอวัย และเสริมความแข็งแรงด้วยวิธีต่างๆนานา เวลาที่คนไม่ใช่น้อยอาจตั้งคำถามว่า ที่เรากินวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปอย่างมากนั้น โดยความเป็นจริงแล้วเราได้รับวิตามินมากจนเกินไป หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความรู้ความเข้าใจก่อนว่า ความนิยมชมชอบในการกินวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปและอเมริกา เพราะเหตุว่าผู้คนมีการกระทำการกินของกินที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ จนกระทั่งมีคนเจ็บมากมายก่ายกอง ก็เลยเท่ากับเปิดโอกาสทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายใช้ข้อบกพร่องนี้เป็นแผนการตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ป่วยโดยตรง และก็สุดท้ายจึงขยายมาสู่ฝูงคนธรรมดาทั่วไป โดยกล่าวถึงว่าต้องได้รับอาหารเสริมแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยไม่พูดว่ามูลเหตุของวิตามินพวกนั้นมาจากการกินอาหารอะไรบ้าง เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้คุณอาจจะเคยทราบข่าวสารสะเทือนแวดวงอาหารเสริมในสหรัฐอเมริกามากมายก่ายกอง เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่รู้จักต้นสายปลายเหตุขณะฝึก ซึ่งเขามีอายุเพียงแต่ 23 ปีเพียงแค่นั้น และก็เจออาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา จึงทําให้หน่วยงานอาหารและยา ทบทวนการใช้อาหารเสริมดังกล่าวเพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากได้รับประทานอาหารเสริมก็อย่าได้หลงเชื่อเพียงคำชวนเชื่อถึงผลดีอันเยอะแยะ ควรจะระมัดระวังผลเสียด้วย เนื่องจากหากกินมากมายและก็กินติดต่อนานเกินไป อาจมีอันตรายได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 แต่ละวันเกินวันละ 10 มก. อาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือรวมทั้งเท้าได้ หรือรับประทานสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็อาจกระตุ้นมะเร็งในผู้ดูดบุหรี่ได้เช่นเดียวกัน อย่างที่พวกเรารู้กันดีว่าถ้ารับประทานอาหารให้นานาประการ จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก แล้วก็เกือบจะไม่มีความจําเป็นในการรับประทานอาหารเสริมเลย ในช่วงเวลาที่กลุ่มชนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกรุ๊ปผู้มีรายได้น้อย เพราะว่าไม่สามารถที่จะเลือกรับประทานอาหารได้ครบบริบรูณ์ หรือบางรายก็ทานอาหารเดิมๆโดยยิ่งไปกว่านั้นอาหารจานด่วนทั้งหลายแหล่
มาถึงนี้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจนึกสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายของพวกเราควรจะได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็จะต้องพินิจจากอาหารที่พวกเราเลือกกิน ควรกินให้นานาประการ และก็ผักสดแล้วก็ผลไม้ (วิธีกล้วยๆรับประทานให้ครบ 5 สี) แต่ถ้าเกิดไม่สามารถเลือกได้ ก็ให้เลือกรับประทานวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย เพราะถ้าเกินความต้องการจะสามารถขับทิ้งได้ ยกตัวอย่างเช่น วิตามิน B แล้วก็ C แต่วิตามินที่รับประทานแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K จ้ะ
สำหรับคนที่รับประทานวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมทดลองพินิจปริมาณที่ควรจะกินต่อวันด้วย ได้แก่ วิตามินซีในปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นขนาดเหมาะสมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน หรือแคลเซียม 2000 มิลลิกรัมต่อวัน เหมาะสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เนื่องจากช่วยคุ้มครองปกป้องกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดรวมทั้งกําลังตั้งท้อง แนะนำว่าให้กิน 1,500 มิลลิกรัมกำลังพอดีจ้ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยธรรมดาในคนธรรมดาควรได้รับ วันละ 8-15 มิลลิกรัม ส่วนผู้เจ็บป่วยโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรจะได้รับวันละ 50-100 มิลลิกรัมจ้ะ

เครดิตบทความจาก : https://newshealth.site123.me/

Tags : อาหารเสริม วิตามิน