●● ท่องเที่ยววันหยุด วาไรตี้แสนสนุก! เรื่องราวฮอตฮิต! สิ่งที่คุณเห็น...จะทำให้คุณต้องตะลึง คลิ๊ก! ●●

หาเพื่อน หาแฟน หาคู่

เล่นเกมส์

ดูดวง

สูตรวิเศษ สาระน่ารู้ เรื่องสุขภาพ

งาน - อาชีพเสริมทำเงินล้าน

ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องลามิเนทหรืออาจจะเรียกว่าเครื่องเนย์  (อ่าน 363 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Kittipong99010

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8084
  • ถูกใจ 0
  • เพศ: ชาย
เครื่องลามิเนท extrusion coating
*** อันดับแรกที่มีความสำคัญที่สุดคือ ต้องทราบก่อนว่า งานที่ต้องการที่จะผลิตคืองานอะไร มีลักษณะอย่างไร ต้องการไปบรรจุสินค้าชนิดใด เป็นของเหลวหรือของแข็ง ขนาดบรรจุ มีความต้องการความสวยงามมากหรือน้อย  ถ้ายังไม่ทราบไม่ต้องไปหาข้อมูลเครื่องจักรให้เสียเวลา หรือว่าหาข้อมูลไปก็ผิดพลาดเสียเวลาไปเปล่าๆ หรืออาจจะเสียเงิน  เพราะว่าข้อมูลเริ่มต้นว่าจะผลิตงานอะไรก็ยังไม่รู้เลย***การแก้ไขปัญหาทีหลังเป็นเรื่องยาก***thanit
ด้านล่างมี vdo ตัวอย่างการทำงานของเครื่อง extrusion
***เครื่องจักรแต่ละชนิดไม่สามารถผลิตงานได้ดีทุกงานต้องเลือกเครื่องจักร ที่มีความเหมาะสมสำหรับงานนั้นๆ ผู้ขายเครื่องจักรที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำงานในสายตรงด้านการผลิต จะไม่ทราบความต้องการงานที่จะผลิตชนิดนั้นๆต้องการชนิด ,คุณภาพของเครื่องจักรที่สามารถ ผลิตงานได้ตรงตามความต้องการของงานผลิตงานได้ดีหรือไม่ดี เมื่อผลิตไม่ได้หรือไม่ดีก็จะโทษว่าคนทำงานไม่ดี***ปัจจุบันสินค้ามีการแข่งขันด้านการตลาดแข่งขันกันด้านราคากันมาก ซึ่งด้านราคาผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดหรือเลือกผู้ผลิต ทำให้ผู้ผลิตต้องแข่งขันกันด้านราคา ต้องมีวิธีในการควบคุมราคาหรือต้นทุนการผลิตให้ต้นทุนต่ำ อยู่ที่การควบคุมคุณภาพให้ได้ดีไม่มีการ REJECT. และที่สำคัญคือการลดการสูญเสีย NC & WASTE จึงต้องเลือกเครื่องจักรที่ถูกต้องเหมาะสมกับงานที่ต้องการผลิตเป็นสิ่งสำคัญ***
ติดต่อสอบถามได้ครับ แต่ว่าจะสอบถามกลับทุกครั้ง ที่มีคนที่สนใจสอบถามมาว่าจะทำงานลักษณะใด โปรดเตรียมคำตอบไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถคุยต่อเรื่องงานได้เลยครับ
มีสินค้าที่ต้องการผลิตปรึกษาเราได้ทั้งเรื่อง เครื่องจักร,คน ,วัตถุดิบ ,วิธีการทำงาน, งบลงทุนหรืออ่านบทความแล้วยังเข้าใจไม่ชัดเจน
ติดต่อสอบถามเราได้ครับและสอบถามเรื่องเครื่องจักรได้ที่มีสินค้าที่ต้องการผลิต ปรึกษาเราได้ทั้ง เครื่องจักร,
คน ,วัตถุดิบ ,วิธีการทำงาน ,งบลงทุนหรืออ่านบทความให้ครบถ้ายังไม่ชัดเจน ติดต่อสอบถามเราได้ครับ
ด้านล่างบทความมีการตอบปัญหางาน
***ทีมเรา” gravurecon กราเวียร์คอน”ให้คำปรึกษาด้านโรงพิมพ์ “กราเวียร์” แบบครบวงจรในด้านเทคนิคการผลิต, การป้องกันปัญหาและการแก้ไขปัญหา ,ให้ตอบสนองตรงตามความต้องการของลูกค้า จากประสบการณ์ในการทำงานในโรงงาน สายการปฎิบัติงานในสายการผลิต(ค่าแรง 60 บาทต่อวัน ) โดยตรงกว่า30 ปี ในระดับผู้ปฎิบัติงานในฝ่ายผลิตไม่ต่ำกว่า 15 ปีและ ระดับจัดการฝ่ายผลิตถึงผู้จัดการโรงงานไม่ต่ำกว่า 15 ปีในโรงงานมาตรฐานที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนจนถึงโรงงานที่มีพนักงาน 150 คนขึ้นไปขึ้นไป ยอดขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทจนถึงขนาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน ( สรุปผ่านประสบการณ์มาทั้งโรงงานเล็กและโรงงานใหญ่ ) ผ่านการทำงาน เครื่องพิมพ์กราเวียร์ ( GRAVURE PRINTING ) ,เครื่องลามิเนทหรือเนย์ ( COATING EXTRUSION ) ,  ดรายลามิเนท (DRY LAMINATE ), เครื่องทำซอง ( BAG MAKING ) ,เครื่องสลิท ( SLIT ), เครื่องเป่าฟิล์ม ( BLOWN FILM )……etc ”
***ลูกยางกดทับ ( nip roll ) ไม่ดี แข็งเกินไป,นิ่มเกินไป,บวม,เป็นร่อง,เป็นขุย  etc. มีผลกับ ระบบควบคุมความตึง-หย่อน ( tension) ของเครื่องจักร เพราะะว่าเมือกดทับได้ไม่ดี ทำให้ระบบควบคุม tension จะไม่แยกการควบคุมออกเป็นช่วงๆ  UNWINDER ,- IN FEED ,- OUT FEED-, REWINDER จะทำงานไม่แยกส่วนการควมคุม มีผลทำให้ ฟิล์มที่ใช้ผลิตงานจะควบคุมความตึง -หย่อนเป็นสว่นๆได้ ฟิล์มที่ใช้พิมพ์จะยึดและหดเกินกว่าค่ามาตรฐานที่ใช้งานได้ดี***
การเคลือบกระสอบสานทำให้การเกาะติดดี
อาจจะมีหลายๆความคิดที่หาสาเหตุที่ว่า ทำไม? การเคลือบงานพิมพ์ การเกาะติดของฟิล์มที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์กราเวียร์ บางครั้งเกาะติดดีมาก แต่ทำไมบางครั้งการเกาะติดไม่ดี ไม่มีความสม่ำเสมอ เหตุผลนี้ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เป็นสาเหตุเริ่มต้น ที่ทุกๆโรงงาน มีการมองข้ามไปและชอบบอกว่า “ไม่เกี่ยวข้องกัน”แต่ก็หาคำตอบไม่ได้สักที ( ถ้าไม่เปิดกว้างทางด้านความคิดและรับเรื่องเทคนิคใหม่ๆเข้ามาเพื่อหาสาเหตุ ก็หาไปจนเกษียนก็หาคำตอบไม่ได้ )

****รูปแบบเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์งานที่มีเคลือบเงาบนฟิล์มเป็นสีสุดท้าย หรืองานที่มีสีเกาะติดบนฟิล์มหนา รูปแบบเครื่องจักรแบบนี้ ทำให้สีแห้งได้ดีกว่าก่อนที่ฟิล์ม เข้าชุดเก็บม้วน ( rewinder ) เมื่อวานิชและสีแห้งดี นำไปผลิตขั้นตอนต่อไป ได้ดีไม่พบปัญหาสีบล็อคกิ้ง สีหลุดติดซับหลัง และเมื่อนำไปเคลือบ ลามิเนท ( EXTRUSION ) ระหว่างงานพิมพ์ด้วยฟิล์ม OPP หรือ CPP จะเคลือบโดยตรงไม่มีการโค๊ตน้ำยา ( orgatic ) ก่อนการเคลือบ โดยการเคลือบด้วยวิธี นี้ ( EXTRUSION) จะเป็นวีธีลาดทับด้วย เม็ดพลาสติก PP ที่หลอมออกมาโดยตรง เมื่อใช้เครื่องพิมพ์รูปแบบนี้พิมพ์งาน การเกาะติดของชั้นเคลือบจะดีมากเพราะผิวฟิล์ม OPP หรือ CPP ที่พิมพ์สีจะมีการระเหยของสีที่ติดผิวฟิล์มจะระเหย ออกมากกว่าเครื่องพิมพ์ปกติ (มีทินเนอร์ หรือตัวทำละลายสีตกค้างมากจะทำให้เคลือบเกาะติดไม่ดี) รวมทั้งกลิ่นสีที่ตกค้างน้อย เพราะมี PRINT UNIT 9  ให้มีการอบแห้งในตู้อบที่มีขนาดใหญ่กว่า ชุดอบ 1-8 ที่มีการร้อยฟิล์มขึ้นไปบนเครื่อง และเพิ่มระยะทางให้ฟิล์มยาวมากขึ้น****
***ในบทความมีหลายๆระดับความรู้ เลือกหาอ่านเนื้อหาที่อ่านแล้วมีความเข้าใจ ตามพื้นฐานความรู้เรื่องพิมพ์กราเวียร์ ของแต่ละบุคคลครับ ถ้าบางเรื่อง อ่านแล้วไม่เข้าใจก็อ่านผ่านๆไปก่อน แล้วลองกลับมาอ่านซ้ำเพื่อทำความเข้าใจ เพราะว่ามีรายละเอียดมากทุกขั้นตอนอาจจะเขียนได้ไม่ครอบคลุมทุกเรื่องได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่ปัญหาต่างๆเกิดจาก เครื่องจักร , คน ,วิธีการทำงาน ,วัตถุดิบ ถ้าแยกออกเป็นเรื่องย่อยๆแล้วจะใช้เวลาเขียนนาน ควรอ่านเฉพาะที่มีเข้าใจและที่ต้องการอ่านก่อน เพื่อนำไปใช้ทำความเข้าใจแก้ปัญหาที่เกิดจากการทำงาน อาจจะตรงประเด็นกันบ้าง ไม่ตรงประเด็นกันบ้าง คิดเสียว่ายังมีเรื่องราวเรื่อง พิมพ์ระบบกราเวียร์ ให้อ่านบ้างก็ดีนะครับผม
***อ่านบทความก็จะทราบดีว่ามีประสบการณ์จริง เขียนบทความจากประสบการณ์จริง ภาษาที่ใช้เขียนเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในการปฎิบัติงานในโรงงาน ถ้าผู้อ่านไม่ได้มาจากสายปฎิบัติหรือยังไม่มีประสบการณ์ ในการทำงานในสายงานนี้ อาจจะอ่านบทความแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจบ้างพอสมควร
*** มีความต้องการสอบถามเรื่องเครื่องจักร ชนิดที่ต้องการทำงานทุกขั้นตอนการผลิต สอบถามได้นะครับไม่ต้องเกรงใจ เราสามารถแนะนำบริษัท ที่ขายเครื่องจักรให้ได้ เป็นบริษัทนำเข้าจากประเทศจีน ที่ให้ความสำคัญ ความคิดเห็นของลูกค้า รับฟังความต้องการของลูกค้า และให้คำแนะนำเครื่องจักรที่ตรงกับชนิดสินค้าที่การผลิตสินค้า, มีบริการหลังการขายที่ดี , มีราคาที่เหมาะสม, สเปคเครื่องที่เหมาะสม ไม่มากเกินความจำเป็นหรือน้อยเกินไปทำให้ทำงานดีๆได้ยาก , มีเครื่องจักร หลากหลายสเปคตามแบบงานที่ทำง่ายๆตั้งแต่ แบบงาน OTOP จนถึงงานที่ต้องการทำสเปคสูง จนถึงงานส่งออกต่างประเทศ เปรียบเทียบราคาและประสิทธิภาพ กับเครื่องจักรจาก ประเทศญี่ปุ่นหรือเครื่องยุโรปที่มีราคาที่สูง เครื่องจักรประเภทเดียวกันได้ในราคาที่ถูกกว่า ***
****ไม่แนะนำเครื่องจักรมือสอง เพราะต้องใช้ประสบการณ์มาก และต้องมีเทคนิคการผลิตสูง ต้องมีความเข้าใจเบื้องต้น เรื่องการซ่อมแซมบำรุงรักษาด้วยตนเองในระดับหนึ่งเพราะเครื่องจักรจะมีการเสียบ่อย ถ้าจ้างช่างเข้ามาซ่อมจะเสียเวลารอ ค่าใช้จ่ายสูง และข้อจำกัดของเครื่องจักรในด้านการพิมพ์ คุณภาพงานพิมพ์ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่การคาดหวังเริ่มต้นจะคาดหวังเพียงเล็กน้อย ผลิตงานง่ายๆ ตามความเข้าใจของตนเองหรือเห็นการทำงานของคนอื่นที่มีประสบการณ์ แต่จริงๆแล้วไม่ง่ายเลย ลองๆสอบถามคนที่ใช้งานเครื่องมือสองผลิตงานกว่าที่จะได้ผลิตงานได้ระดับที่ขายให้ลูกค้าได้ เขาใช้เวลานานเท่าไร ใช้เงินลงทุนไปเท่าไร ใช้เวลานานเท่าไร คงไม่มีใครตอบว่าใช้งานได้ในเดือนแรกที่เริ่มทำงาน อาจจะใช้เวลา 6 เดือนหรือ 1 ปี หาข้อมูลเปรียบเทียบให้ครบถ้วนทุกๆด้านก่อนการตัดสินใจนะครับ***
บทความ
ติดต่อเรา”กราเวียร์คอน” gravurecon”..ด้านล่างบทความมี vdo การทำงานแบบสั้นๆครับ
ในบทความมีหลายๆระดับความรู้ เลือกหาอ่านเนื้อหาที่อ่านแล้วมีความเข้าใจ ตามพื้นฐานความรู้เรื่องพิมพ์กราเวียร์ ของแต่ละบุคคลครับ ถ้าบางเรื่อง อ่านแล้วไม่เข้าใจก็อ่านผ่านๆไปก่อน เพราะว่ามีรายละเอียดมากทุกขั้นตอนอาจะเขียนไม่ครอบคลุมทั้งหมด ส่วนใหญ่ปัญหาต่างๆเกิดจาก เครื่องจักร , คน ,วิธีการทำงาน ,วัตถุดิบ ถ้าแยกออกเป็นเรื่องย่อยๆแล้วน่าจะใช้เขียนนาน อ่านเฉพาะที่เข้าใจและที่ต้องการอ่าน เพื่อนำไปใช้ทำความเข้าใจแก้ปัญหาที่เกิดจากการทำงาน อาจจะตรงประเด็นกันบ้าง ไม่ตรงประเด็นกันบ้าง คิดเสียว่ายังมีเรื่องราวพิมพ์กราเวียร์ให้อ่านบ้างก็ดีนะครับผม
ติดต่อสอบถามเรา “กราเวียร์คอน” gravurecon “
***ในหัวข้อบทความของทุกขั้นตอนการผลิต แต่ละบทความมี เรื่องปัญหาต่างๆที่พบในการพิมพ์ระบบกราเวียร์ และในขบวนการผลิต ได้มีการตอบวีธีการแก้ไขหลายๆปัญหาที่พบในการพิมพ์ ระบบกราเวียร์ โปรดอ่านเผื่อว่าจะตรงกับ ปัญหาที่ท่านกำลังหาคำตอบอยู่ ถ้าเปิดผ่านๆไปไม่ได้ความรู้ ขอแนะนำว่า ควรอ่านเป็นอย่างยิ่ง “การเลือกเครื่องจักรให้ถูกต้องกับชนิดของงาน เป็นสิ่งสำคัญ”  เพราะว่าเครื่องจักรมีหลายแบบ แม้รูปร่างเครื่องจักรจะเหมือนๆกัน แต่เครื่องจักรแต่ละแบบ ถูกออกแบบมาให้ทำงานตรง และเหมาะสม กับชนิดของสินค้า จะทำงานได้ดีตรงกับสินค้าที่ต้องการผลิต ส่วนสินค้าที่มีความแตกต่างกันออกไป ผู้ที่ต้องการซื้อ ต้องให้ข้อมูลผู้ผลิตหรือผู้ขายเครื่องจักรเพื่อให้ตรงกับสินค้า… เครื่องจักรที่ถูกออกแบบมาทั่วๆไป จะผลิตสินค้าได้คุณภาพได้ไม่ดีเท่ากับเครื่องจักร ที่ออกแบบมาตรงชนิดกันกับความต้องการผลิตสินค้าชนิดนั้นๆ ( เพราะสินค้ามีรูปแบบและมีความต้องการคุณสมบัติที่หลากหลายชนิดแตกต่างกันมาก )
***ในหัวบทความมี หัวข้อเรื่องปัญหาต่างๆที่พบในการพิมพ์กราเวียร์ และในขบวนการผลิต โปรดอ่านเผื่อว่าจะตรงกับ ปัญหาที่กำลังหาคำตอบอยู่ เปิดผ่านๆไปไม่ได้ความรู้ แนะนำ ควรอ่านเป็นอย่างยิ่ง
*** การที่จะทราบว่างานมีปัญหาหรือไม่เริ่มตั้งแต่ รับงานที่ถูกลูกค้า  nc – complen- reject  ร่วมประชุมเพื่อหาสาเหตุ ,การแก้ไข ,การป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ ถ้าได้รับคำตอบที่ไม่มีข้อสรุป โทษกันไป โทษกันมา ยกเว้นโทษตนเอง  วนเป็นวงกลม ไม่สิ้นสุดและหาผลสรุปไม่ได้ ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ลูกค้าก็จะหมดความน่าเชื่อถือ สุดท้ายงานก็จะหายไป ปัญหาก็ยังคงอยู่ต่อไป ****
****ในแต่ละหัวข้อด้านกลางๆบทความ จนถึงจบจะมีแสดงปัญหาที่เกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นคร่าวๆเพื่อเป็นข้อควรระวัง ขอแนะนำน่าอ่าน ครับ****
***การผลิตทุกขั้นตอนจนกระทั่งถึงลูกค้า มีผลกระทบกันทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ใช่ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่รับงานจากลูกค้ามาจนถึง ลูกค้ารับสินค้าด้วยความพึงพอใจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด**
*** ปัจจุบันการซื้อ -ขายเครื่องจักร ที่ผู้ขายเครื่องจักรมีความต้องการแต่ต้องการขายเครื่องจักรอย่างเดียว มีการนำเสนอ ในการแนะนำสิ่งแรกที่ให้ความจูงใจกับผู้ซื้อคือราคาที่ถูก มีการลดราคาได้มากจากการต่อรองของผู้ซื้อ ผู้ซื้อจะมีความภูมิใจว่าได้ซื้อเครื่องจักรที่มีราคาถูก ( ถูกกว่าที่ผู้ซื้ออื่นที่ได้ซื้อไปก่อนหน้า ) เป็นการเริ่มต้นที่ให้ผู้ซื้อให้ความสนใจมากที่สุด หรือเพิ่มเติม วิธีการใช้งานเครื่องจักร ,การควบคุมเครื่องจักร แค่เพียงเท่านั้นไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ซื้อ เพราะผู้ซื้อเครื่องจักรอาจจะไม่มีความเข้าใจ ว่าลักษณะงานที่ผู้ซื้อเครื่องจักรมีความต้องการผลิตสินค้าชนิดนั้นๆได้เลือกเครื่องจักร ตรงตามความต้องการหรือไม่ อาจจะเกิดความผิดพลาดซื้อเครื่องจักรที่ไม่สามารถผลิตงานได้ตรงความต้องการ จะเกิดความเสียหายสูงมากเมื่อซื้อเครื่องจักรมาจอด เพราะเครื่องจักรที่ซื้อมาไม่ตรงกับการผลิตสินค้าที่ต้องการผู้ขายเครื่องควรให้คำแนะนำผู้ซื้อว่าลูกค้าต้องการผลิตสินค้าชนิดใด เครื่องจักรที่เหมาะสม คือเครื่องจักรลักษณะอย่างไร ให้คำแนะนำเรื่องการป้องกันปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับชนิดงานนั้นๆ การป้องกันงานสูญเสียที่มีผลกับต้นทุนการผลิต และแนะนำขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันผู้ซื้อเครื่องจักร จะคำนึงถึงราคาเครื่องจักรที่มีราคาถูกเป็นลำดับแรก จุดนี้เองเป็นจุดที่ผู้ขายใช้เป็นสิ่งจูงใจลำดับแรกแต่เมื่อซื้อเครื่องจักรแล้วไม่ตรงกับความต้องการผลิตหรือผลิตได้คุณภาพไม่ดี มีการสูญเสียสูง ผู้ขายเครื่องจักรไม่เข้ามาเยี่ยมเยียน ร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาร่วมกันให้กับผู้ซื้อได้รับความพึงพอใจในการใช้งานเครื่องจักรได้ตรงตามความต้องการ ปล่อยให้ผู้ซื้อเครื่องจักรรับปัญหาในการที่ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ เรื่องนี้มีความสำคัญที่ผู้ซื้อควรคำนึงถึงเป็นอย่างมาก ( ผู้ขายเครื่องจักรประเภทที่เมื่อมีปัญหาในการผลิตงานก็เพียงให้คำพูดการยืนยันอย่างเดียวว่าเครื่องจักรที่ตนเองขายนั้นดี ที่สุดในโลกโทษแต่คนทำงาน ( operator )ไม่ดี ควรให้การพิจารณาเป็นพิเศษ ***
# มีการพบเห็นหลายๆโรงงานที่พบปัญหานี้ โปรดพิจารณาอย่ามองข้ามนะครับ !
ปัญหาต่างๆของงานเคลือบแบบ EXTRUSION COATING ( หรือ อาจจะเรียกเครื่อง เนย์ )
– เคลือบออกมาใหม่ๆเช็คการเกาะติดดี แต่ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงแล้วลอก—- เช็คน้ำเย็นอัตราการไหลของน้ำเข้าลูกกลิ้งน้ำเย็น (chill roll ) ว่ามีการไหลหมุนเวียนดีหรือไม่ กับอุณหภูมิของน้ำเย็นทั้งด้านน้ำเข้าลูกลิ้งกับด้านน้ำออกจากลูกกลิ้ง แตกต่างกันมากหรือไม่
– เคลือบออกมาแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงคุณภาพดี แต่แพ็คสินค้าแล้วทิ้งไว้ 7 วันแล้วลอก-…–ต้องใช้กาวโค๊ตผิวฟิล์มแทนน้ำยาโค๊ตปกติ(ออกาติก)และนำ้หนักที่โค๊ตน้ำยาลงบนผิวฟิล์มควรจะมีน้ำหนักกาวเท่าไร
– เคลือบทุกอย่างดีหมดแต่ส่งไปต่างประเทศแล้วลอก— ต้องใช้กาวโค๊ตผิวฟิล์มแทนน้ำยาโค๊ตปกติ ( ออกาติก orgatix )
– เคลือบออกมาความหนา- บาง ไม่ดี,ไม่สม่ำเสมอ ———-ต้องทดลองลดความเร็วเครื่องลง และลดความเร็วสกรูลง โดยให้ความหนาอยู่เท่าสเปคแล้วลองเช็คความสม่ำเสมอของความหนา บาง ว่าสม่ำเสมอดีหรือไม่ ถ้าดีก็ใช้ความเร็วระดับนี้ไปก่อนเพราะต้องมีแก้ไขหลายอย่างเช่น ขนาดสกรู, ขนาดหัวดาย,ขนาดความกว้างของปากดาย(die gap) ,ขนาดของแรงดัน
– เคลือบออกมาแล้วบวมด้านริมม้วน———–การปรับตัวกั้นขอบปากดาย ( deckle bar ) ขนาดแคบเกินและตัวปรับขอบรูปทรงไม่ได้ตามรูปแบบที่ถูกต้อง
– เคลือบออกมาแล้ว บวมกลางม้วน————ปรับแรงดัน ให้ลดลง หรือทดลองใส่ตะแกรงให้มากกว่าเดิม อาจใช้ 3-4 ชั้นและเบอร์ของตะแกรงที่มีความละเอียดมากกว่าเก่า
****ทั้งสามปัญหาให้เช็คและปรับการไหลของเม็ดจากสกรู ให้สมดุลย์กับหัวดาย และความกว้างของปาก T-DIEหรือทดลองแบบง่ายๆให้ลดความเร็วของเครื่องจักรลดลง15% โดยลดความเร็วของสกรูลงตามอัตราส่วน  (โดยความหนาของการเคลือบยังคงเท่าเดิม )***
– เคลือบออกมาแล้วระยะภาพ ยืด-หด—- เช็คน้ำเย็นอัตราการไหลกับอุณหภูมิของน้ำให้มีความเย็นเพียงพอ ,ระดับตำแหน่งของหัวดาย อยู่กึ่งกลางลูกกลิ้งน้ำเย็นกับลูกยางซิลิโคลนหรือไม่
– เคลือบออกมาแล้วภาพด้านริมยืด—- เช็คน้ำเย็นอัตราการไหลกับอุณหภูมิของน้ำให้มีความเย็นเพียงพอ,ระดับลูกลิ้งน้ำเย็นกับหัวดายและลูกยางซิลิโคลนthanit
– เคลือบออกมาแล้วเงาด้านริมด้านเดียว ( M-CPP )—- เช็คน้ำเย็นอัตราการไหลกับอุณหภูมิของน้ำให้มีความเย็นเพียงพอ,และเย็นตลอดแนวทั้งลูกกลิ้งหรือไม่
– เคลือบออกมาแล้วการเกาะติดไม่ดี ( M-CPP )—อุณหภูมิในการหลอมเม็ดพลาสติกต่ำเกินไปและ M-CPP มีอุณหภูมิเย็น,ชนิดของพลาสติกที่ใช้มีความเหนียวเพียงพอหรืไม่ PE ธรรมดาการเกนาะติดไม่ดี และมีอุณหภูมิในการหลอมเหลวสูงเกินไปทำให้ MCPP แตกลาย
– เคลือบออกมาแล้วไม่เงา ( PP ) หรือเป็นแตกลายและเป็นฝ้าไม่เงา… เช็คน้ำเย็นอัตราการไหลกับอุณหภูมิของน้ำให้มีความเย็นเพียงพอ
-เคลือบออกมาแล้วทิ้งม้วนไว้ เมื่อครบเวลา แล้วม้วนรัดแน่นด้านกลางม้วนติดแกนถูกดันแหลมออกมา และม้วนมีรอยย่น….เช็ค tension ชุด rewinder
– เคลือบออกมาแล้วรอบแรกลอก ( กรณีเคลือบ2รอบ )
– เคลือบออกมาแล้วรอบสองลอก ( กรณีเคลือบ2รอบ )
– เคลือบงานสองรอบ เคลือบรอบแรกอย่างไรให้การเกาะติดดี
– เคลือบงานสองรอบ เคลือบรอบสองอย่างไรให้เกาะติดดี
– เคลือบงานที่ใช้เม็ดพลาสติกแต่ละชนิดตั้งอุณหภูมิน้ำเย็นเท่ากันหรือไม่ และมีผลต่อคุณภาพอย่างไร
– เคลือบออกมาแล้ว บล็อคกิ้ง ( เหนียวแกะไม่ออก )
– ระหว่างเคลือบ เม็ดพลาสติกไหลออกมาไม่ดีไหลขาดเป็นช่วงๆ
– การเคลือบโดยใข้กาวโค๊ดเคลือบรอบแรกแล้ว เคลือบรอบสองกาวติดริมงานฉีกขาด
– เคลือบแล้วมีน้ำเย็นเซาะขอบงานทำให้งานลอก ด้านริม
– เคลือบออกมาเม็ดพลาสติก ลายเป็นตาข่าย
– เคลือบออกมาแล้วมีไฟฟ้าสถิตย์มาก
****** เคลือบงานทำซองซีลสามด้าน ( three side seal ) ออกมาดีแล้วตรงตามสเปค แต่เมื่อไปทำซองที่เครื่องทำซองแล้วการประกบขึ้นรูปซอง ซองออกมารูปภาพด้านหน้าซองและรูปภาพด้านหล้งซองไม่ตรงกัน หรืออีกกรณีหนึ่งคือขนาดของซองที่ออกมามีความยาวไม่เท่ากัน,ซองที่ออกมาเจาะรูกลม ( โอ คัท, O-CUT ) ,เจาะรอยฉีก วีคัท (V-CUT) ไม่ตรงกัน,ขนาดรอยซีลด้านข้าง-ด้านหัวซอง – ด้านล่างซอง มีนาดไม่เท่ากันการเคาะซองรวมแพ็ค 50 ซองหรือ 100ซอง ไม่สามารถรวมแพ็คได้เพราะซองขนาดไม่เท่ากัน เมื่อลูกค้านำขึ้นแขวนที่แขวนแบบเจาะรูแขวน ซองจะไม่เรียงตรงกันเป็นระเบียบ เกิดจากการเคลือบออกมาแล้วไม่ตรวจเช็คให้ครบทุกขั้นตอนการผลิตจนกระทั่งถึง สินค้าสำเร็จรูป จะทราบก็ต่อเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้าย ( ทำซอง ) ทำให้เกิดการสูญเสียสูงหรืออาจใช้ไม่ได้ **
น้ำเย็น…อย่ามองข้ามไม่ให้ความสำคัญนะครับ เพราะพลาสติกมีความต้องการใช้อุณหภูมิต่ำในการเซ็ตตัว ต้องเย็นและการไหลหมุนเวียนดี ( flow )..การที่มีไอน้ำเกาะที่ส่วนระบายความร้อน ไม่ใช่หมายความว่าความเย็นเพียงพอ แต่เป็นการไหลเวียนของน้ำเย็นไม่ดี การไหลเวียนดีจะไม่มีไอน้ำเกาะ ( condent )  ประเทศไทย เป็นประเทศที่อากาศร้อน ชื้น  มีความต้องการความเย็นมากกว่าต่างประเทศที่อากาศหนาว และอากาศแห้ง การใช้เพียง cooling towerเพื่อระบายความร้อนไม่เพียงพอ และการใช้แบบตู้ทำความเย็นก็ไม่เพียงพอ เพราะต้องการปริมาณน้ำเย็นที่เพียงพอกับการหมุนเวียนให้อุณหภูมิ คงที่สม่ำเสมอกับการใช้งานแบบต่อเนื่อง 12 ชม.เป็นอย่างน้อยหรือตลอดระยะเวลาทั้งสัปดาห์
# มีการพบเห็นหลายๆโรงงานที่พบปัญหานี้ โปรดพิจารณาอย่ามองข้ามนะครับ !
การบริการหลังการขาย…มีทีมSERVICE หรือไม่มี,
 
  อยู่ระหว่างปรับปรุงครับ

 
**อาจมีปัญหาเรื่องการผลิตงาน มีปัญหาที่หาคำตอบไม่ได้เหมือนๆกันทุกๆโรงงาน อาจจะมีการมองข้ามสาเหตุของการแก้ปัญหาต่างๆไปและได้รับคำตอบว่า “ไม่เกี่ยวข้องกัน” แต่ก็หาคำตอบที่ถูกต้องไม่ได้สักที ป้ญหานั้นๆก็ไม่จบไป ยังคงอยู่แบบไม่มีการแก้ไข ( ถ้าไม่เปิดกว้างทางด้านความคิดและรับเรื่องเทคนิคการผลิตใหม่ๆเข้ามาเพื่อหาสาเหตุของปัญหา ก็หาคำตอบที่มีปัญหาไม่ได้ )

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.gravurecon.com

Tags : พิมพ์กราเวียร์,เครื่องพิมพ์กราเวียร์,กราเวียร์