●● ท่องเที่ยววันหยุด วาไรตี้แสนสนุก! เรื่องราวฮอตฮิต! สิ่งที่คุณเห็น...จะทำให้คุณต้องตะลึง คลิ๊ก! ●●

หาเพื่อน หาแฟน หาคู่

เล่นเกมส์

ดูดวง

สูตรวิเศษ สาระน่ารู้ เรื่องสุขภาพ

งาน - อาชีพเสริมทำเงินล้าน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงสำคัญมากกว่าความมั่งมีอย่างแน่นอนมาดูแลสุขภาพกันเลยดีกว่า  (อ่าน 387 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Luckyz0nl3

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3963
  • ถูกใจ 0
  • เพศ: ชาย
สิ่งที่พวกเราควรใส่ใจไว้เสมอว่า มั่งมีสุขภาพดีกว่ามั่งคั่งเงิน ทั้งยังสุขภาพเกี่ยวกับร่างกายและสุขภาพทางจิตการบรรลุผลทางการเงินจะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยถ้าสุขภาพย่ำแย่ไป แล้วก็ครั้งคราวต้องนำเงินที่หามาได้จ่ายเป็นค่ารักษาจนถึงหมดคนบางบุคคลมานะคิดบัญชีมาตลอดชีวิต แม้กระนั้นปล่อยให้สุขภาพทรุดโทรม แล้วก็พบว่าเงินทั้งหมดที่หามาไม่อาจจะซื้อสุขภาพไว้ได้จึงจำเป็นต้องเสียชีวิตไปอย่างปวดร้าวทรมาณแสนสาหัสโดยธรรมดาถ้าหากได้รับพรวิเศษ 3 ข้อให้อธิษฐานได้ตามความฝันสิ่งที่มนุษย์เราชอบอธิษฐานกันก็คือขอให้มีสุขภาพแข็งแรงจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตขอให้มีครอบครัวที่ดีและก็ขอให้มั่งคั่งแต่ว่าหากมีพรให้เลือกอธิษฐานได้เพียงแค่ข้อเดียวสิ่งที่จะต้องเลือกเป็นลำดับต้นๆคือการมีสุขภาพที่ดี เพราะถ้าเกิดมีโรครุมเร้า การจะมีคู่ที่ดีหรือมั่งคั่งขนาดไหนก็ไม่เป็นประโยชน์ ซ้ำยังเป็นภาระให้คู่ควงหรือครอบครัวจะต้องมาคอยรักษาอีกสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นการบรรลุผลที่ตีค่าไม่ได้ แม้กระนั้นหาได้น้อยมากที่ใครจะหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างจริงจัง จนกระทั่งจะป่วยไข้ขึ้นมาจึงค่อยเริ่มรู้สึกแม้กระนั้นก็ชอบสายเกินไปการบรรลุเป้าหมายในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคู่ครอง การเรียนการงาน การเงิน ฯลฯ จะไร้ค่าอะไรเลยถ้าหากไม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปัญหาด้านสุขภาพสามารถทำลายความสำเร็จทั้งหมดทุกอย่างที่เคยมีมาไดภายในเวลาอันรวดเร็ว
ความสำราญของคนที่ยังอยู่ในโลกของโลกียะก็คือ ความสุขที่ได้มาจากการเร้าประสาทสัมผัสนั่นเอง รูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส หรือนามธรรมทั้งหลายที่เข้ามากระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ดวงใจ ทำให้เกิดสุขสงสาร กิเลส อุปาทานด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อทวารใดทวารหนึ่งเสียหาย ความสำราญที่ได้รับจากทวารนั้นจะหมดไปโดยทันที จะเป็นประโยชน์อะไรถ้าหากมีเงินซื้อหน้าจอแอลซีดี (LCD) สามมิติราคาหลายแสนบาทแต่ตามองไม่เห็นจะมีสาระอะไรกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ช่วงเวลาที่ตัวเองเดินไม่ได้ จะมีสาระอะไรกับการมีครอบครัวที่อบอุ่น ถ้าเกิดตนเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคนร่างกายแข็งแรงจะมองมีชีวิตชีวา หน้าตาแจ่มใส มีพลังกายพลังใจสูง ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมไปสู่ความสำเร็จด้านอื่น ๆ อีกด้วยคนเรามักไม่ค่อยทราบดีว่า สิ่งที่ตัวเองครอบครองอยู่มีค่าแค่ไหนกระทั่งจะสูญเสียมันไป สุขภาพเป็นของมีค่าที่สุดในชีวิต แต่บางบุคคลไม่เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงและก็ดูแลเลย จนกระทั่งเมื่อป่วยหนักขึ้นมาแล้วก็ค่อยตระหนัก แต่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ยากเกินที่จะแก้ไขหรือแม้จะบำบัดรักษาได้ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมากครั้งคราวอาจเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตเลยก็ได้
หากว่าโรคภัยไข้เจ็บบางจำพวกจะมีเหตุมาจากพันธุกรรม ซึ่งมียีนซ่อนเร้นที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคหลบซ่อนอยู่ (Initiator Gene) แต่ยีนนี้จะไม่ทำงาน ถ้าเกิดไม่มีการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม (Promoter) เป็นต้นว่า ผู้ที่มียีนมะเร็งปอดซ่อนเร้นอยู่ แม้กระนั้นถ้าหากใช้ชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะไม่สูบบุหรี่ บากบั่นเลี่ยงควันพิษ ไอระเหยต่าง ๆ กินอาหารที่มีสาระ บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ยีนโรคมะเร็งที่มีอยู่ก็จะฝ่อไปในที่สุด ไม่อาจจะแสดงผลได้ โรคจำนวนมากไม่ได้ส่งผลมาจากพันธุกรรมทั้งยังร้อยเปอร์เซ็นต์ สภาพแวดล้อมก็เป็นต้นเหตุก่อโรคได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากรู้สึกตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่ง อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต ตับ หรือแม้กระทั้งโรคประสาท เพราะมีประวัติคนภายในครอบครัวเจ็บไข้ก็จะต้องเฝ้าระวัง บากบั่นเรียนหาข้อมูลการปฏิบัติตน เพื่อหลบหลีกสิ่งที่จะทำให้มีการเกิดโรค หากแม้มีโรคประจำตัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นค่อยได้เรื่องจริงแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะให้พวกเราไว้อย่างแข็งแกร่งมากมาย ยก ยกตัวอย่างเช่น “ฟัน” สามารถบดบดได้เป็นเวลา 70 ปีโดยที่จะมีการสึกเพียงนิดหน่อย ถ้านำเหล็กขนาดเท่ากับฟันมาสีกัน น่าเชื่อถือว่าไม่เกิน 2 ปีเหล็กนั้นจะกุดจนกระทั่งหมดไป ถึงกระนั้นขณะนี้ก็มีบุคคลที่ฟันผุ ฟันเสียกันจำนวนมาก ไม่ใช่เพราะธรรมชาติดีไซน์มาไม่ดี แต่เนื่องจากว่าใช้ไม่มีความสนใจดูแลรักษา เช่นเดียวกับอวัยวะอื่น ๆ หัวใจ ไต ตับ ปอด หรือแม้แต่เส้นโลหิต นับว่าเป็นประติมากรรมขั้นสูงสุดของธรรมชาติที่สร้างมาให้ใช้งานได้ขั้นต่ำ 100 ปี แต่ว่าด้วยการดำรงชีพอย่างประมาท ทำให้อายุขัยของอวัยวะสั้นลง
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทันทีทันใดทันทีทันใดเป็นอุบัติเหตุแม้จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงแค่ไหนแม้กระนั้นเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะมีปัญหาด้านของสุขภาพโดยทันที แล้วก็บางเวลาถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ การดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะจะช่วยคุ้มครองป้องกันได้ บากบั่นหมั่นฝึกรุ่งโรจน์สติอยู่เสมอ ๆ อุบัติเหตุต่าง ๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่ว่าเกิดจากกรรมเก่า คนเราสามารถเอาชนะกรรมได้ด้วยสติ ตามที่หลวงพ่อชาเคยกล่าวไว้ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน”ตามทฤษฎีของ อับราฮัม มาสโลว์ ปรมาจารย์ทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า มนุษย์จะมีความต้องการทางด้านร่างกายเป็นขั้นตอนแรก ตัวอย่างเช่น ของกิน ยารักษาโรค การหายใจ การขับถ่ายการนอน ฯลฯ ตราบใดที่ความอยากในระดับต่ำสุดนี้ยังไม่ได้รับการโต้ตอบ จะไม่มีความต้องการไปถึงความมุ่งมาดปรารถนาในระดับที่สูงขึ้น แล้วก็แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตเท่าใด ถ้าเกิดสิ่งที่มีความต้องการขั้นพื้นฐานนี้มิได้รับการโต้ตอบก็จะหาความสุขมิได้ ยกตัวอย่างเช่น มาริลีน มอนโร, เอลวิส เพรสลีย์, ไมเคิล แจ็กสัน ฯลฯ ที่ล้วนเสียชีวิตด้วยการกินยานอนหลับเกินขนาด จะมองเห็นได้ว่า แม้แต่สิ่งที่จำเป็นขั้นพื้นฐานอย่างการนอนให้หลับยังทำไม่ได้ การรวยเป็นพันล้านแม้กระนั้นมีปัญหาสุขภาพไม่ว่ากายหรือดวงใจ ในที่สุดเงินที่มีก็ซื้อความสำราญมิได้
ความสบายที่จริงจริงมาจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งคำว่า “สุขภาพ” แปลตรงตัวก็ได้ความหมายว่า ภาวะแห่งสุข เมื่อแก่ขึ้นจะทราบดีว่าสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงมีค่ามากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมดทั้งปวง หากแม้มีชีวิตที่ไม่ได้มีเงินมีทองอะไร แม้กระนั้นมีสุขภาพแข็งแรงก็จะมีความสุข การดำรงชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ถ้าหากเทียบเคียงแล้ว สบายและดีมากกว่าฮ่องเต้ในโบราณกาลด้วย ยุคนั้นไม่มีห้องอาบน้ำแบบบ้านในขณะนี้ จำต้องใช้กระโถน ไม่มีระบบท่อ พัดลม แอร์ ทีวี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ยารักษาโรคยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง มีแม้กระนั้นสมุนไพรซึ่งให้ผลการรักษาไม่แน่นอนซึ่งตรากตรำที่สุดในโลกปัจจุบันนี้ก็ยังสามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีคุณภาพได้มากกว่าใครๆก็อยากมีสุขภาพดี อายุยืนยาว รวมทั้งมองอ่อนกว่าวัย ก็เลยเลือกสรรเคล็ดลับสำหรับเพื่อการชะลอวัย และก็เสริมความแข็งแรงด้วยวิธีต่างๆนานา ในตอนที่หลายๆคนอาจตั้งเรื่องที่น่าสงสัยว่า ที่เรากินวิตามินหรืออาหารเสริมเข้าไปมหาศาลนั้น แท้จริงแล้วพวกเราได้รับวิตามินมากเกินความจำเป็น หรือวิตามินนั้นไปเสริมส่วนที่ขาดใช่หรือไม่ขอทําความรู้ความเข้าใจก่อนว่า ความนิยมชมชอบสำหรับในการรับประทานวิตามินเริ่มขึ้นในยุโรปและอเมริกา เพราะว่าผู้คนมีความประพฤติปฏิบัติการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ จนถึงมีคนเจ็บมากมายก่ายกอง จึงพอๆกับเปิดทางทางให้บริษัทอาหารเสริมทั้งหลายใช้ข้อด้อยนี้เป็นแนวทางตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเจ็บโดยตรง รวมทั้งสุดท้ายจึงขยายมาสู่กลุ่มชนปกติทั่วๆไป โดยกล่าวถึงว่าจำต้องได้รับอาหารเสริมแค่นั้นเท่านี้เพื่อสุขภาพที่ดี โดยไม่พูดว่าที่มาของวิตามินพวกนั้นมาจากการกินอาหารอะไรบ้าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวสารกระเทือนวงการอาหารเสริมในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก เมื่อนักกีฬาซีอดังเสียชีวิตไม่เคยทราบต้นสายปลายเหตุขณะฝึกฝน ซึ่งเขามีอายุเพียงแต่ 23 ปีเพียงแค่นั้น แล้วก็เจออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ Ephedro อยู่ในล็อกเกอร์ของเขา จึงทําให้องค์การของกินและก็ยา ทบทวนการใช้อาหารเสริมดังกล่าวข้างต้นฉะนั้น หากคุณอยากรับประทานอาหารเสริมก็อย่าได้เชื่อเพียงแค่คำโฆษณาชวนเชื่อถึงผลดีอันมากมายก่ายกอง ควรจะระมัดระวังผลกระทบในทางร้ายด้วย เพราะเหตุว่าหากรับประทานมากแล้วก็รับประทานติดต่อนานเกินไป บางทีอาจมีอันตรายได้ ยกตัวอย่างการกินวิตามินบี 6 วันแล้ววันเล่าเกินวันละ 10 มก. บางทีอาจทําให้สูญเสียความรู้สึกที่มือรวมทั้งเท้าได้ หรือกินสารเบต้าแคโรที่มีขนาดสูง โดยรับประทานติดต่อกันนานๆก็อาจกระตุ้นมะเร็งในผู้สูบบุหรี่ได้เช่นกัน อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าแม้รับประทานอาหารให้นานัปการ จะพบว่าการขาดสารอาหารนั้นมีน้อยมาก แล้วก็แทบไม่มีความจําเป็นสำหรับในการกินอาหารเสริมเลย ระหว่างที่ฝูงคนที่ขาดสารอาหาร มักเกิดในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพราะว่าไม่สามารถเลือกกินอาหารได้ครบสมบูรณ์ หรือบางรายก็ทานอาหารเดิมๆโดยเฉพาะอาหารจานด่วนทั้งหลาย
มาถึงตรงนี้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอาจคิดสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้เช่นไรว่าร่างกายของเราควรจะได้รับวิตามินใดบ้าง ง่ายสุดเลยก็จะต้องไตร่ตรองจากอาหารที่เราเลือกรับประทาน ควรจะกินให้หลากหลาย รวมทั้งผักสดรวมทั้งผลไม้ (วิธีกล้วยๆรับประทานให้ครบ 5 สี) แม้กระนั้นถ้าไม่สามารถเลือกได้ ก็ให้เลือกกินวิตามินที่ไม่สะสมภายในร่างกาย เพราะว่าถ้าหากเกินสิ่งที่จำเป็นจะสามารถขับทิ้งได้ ดังเช่นว่า วิตามิน B และก็ C แต่ว่าวิตามินที่กินแล้วสะสมได้ก็คือวิตามิน A, D, E, K ค่ะ
สำหรับคนที่กินวิตามินเป็นประจํา อย่าลืมลองดูจำนวนที่ควรจะกินต่อวันด้วย เช่น วิตามินซีในปริมาณ 500-1,000 มก.ต่อวัน เป็นขนาดเหมาะสมที่ร่างกายควรได้รับในทุกวัน หรือแคลเซียม 2000 มก.ต่อวัน เหมาะสําหรับสตรีวัยหมดประจําเดือน เพราะว่าช่วยคุ้มครองปกป้องกระดูกพรุนได้ หรือสาวขึ้นมาอีกนิดและก็กําลังตั้งท้อง แนะนำว่าให้รับประทาน 1,500 มก.กำลังพอดีจ้ะ ส่วนธาตุเหล็กนั้น โดยทั่วไปในคนปกติควรได้รับ วันละ 8-15 มิลลิกรัม ส่วนคนเจ็บโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก ควรจะได้รับวันละ 50-100 มิลลิกรัมค่ะ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://newshealth.site123.me/

Tags : วิธีทานอาหารเสริม ที่ถูกต้อง