หุ้น....เป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมด

[หาเพื่อนคุย]

หุ้น....เป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมด

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้ ตลาดหุ้นดูจะดีขึ้นมาพอสมควรเลยนะครับ แม้ข่าวร้ายจะยังปกคลุมตลาดอยู่ก็ตาม แต่ดัชนีก็ไม่ค่อยอ่อนไหวตามแล้ว คงเป็นเพราะซึมซับเรื่องร้ายๆ ไปมาก(เกินจริง)แล้ว นักลงทุนต่างชาติก็กลับมาซื้อบ้างในบางวัน และวันที่ขายก็ขายไม่มากแล้ว

เมื่อวาน ผมได้มีโอกาสดูรายการมือใหม่ที่ดำเนินรายการโดยคุณทีน่าที่ช่อง Money Channel โดยมีแขกรับเชิญคือ อาจารย์ไพบูลย์  เสรีวิวัฒนา แห่ง Money Talk และ อาจารย์ที่ NIDA

อาจารย์ได้ให้ข้อคิดที่ดีมากๆ หลายๆ อย่างให้กับนักลงทุน เช่น

1. ต้องรู้จักทางสายกลาง กระจายพอร์ตอย่างเหมาะสม
2. การออมในหุ้นเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ไม่ควรมองข้าม
3. มีเงิน 8 หลัก 9 หลัก 10 หลัก ก็ไม่เท่าคนที่มีเงิน 6 หลักแต่รู้จักใช้ชีวิต รู้จักให้
4. ถ้าอาชีพหลักยังสามารถสร้างประโยชน์ให้กับชาติและบ้านเมืองได้ ไม่ควรออกมาเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียว

และสุดท้าย

5. การลงทุนในหุ้น เป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิตของเรา อย่าปล่อยให้มามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากจนเกินไป

อาจารย์ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา

หลังจากที่ได้ดูแล้ว ผมก็มานั่งคิดว่าคนระดับอาจารย์ไพบูลย์ หลายๆ คนทราบดีว่าพอร์ตการลงทุนของท่านนั้น ระดับไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000 ล้าน ช่วงที่ผ่านมา 3 - 4 เดือน หุ้นตกลงไปมากพอสมควร พอร์ตของท่านก็คงได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย แต่คงกระทบในด้านที่กำไรหายไปและคงหายไปเยอะด้วย แต่ท่านก็ยังดูสดชื่นและแจ่มใสเหมือนเดิม

ในขณะเดียวกัน ผมก็คิดไกลขึ้นไปอีกว่า "แล้วเพื่อนสนิทของท่านละ จะเป็นอย่างไรบ้าง" คนๆ นั้นก็คือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ต้นตำรับ VI ของประเทศไทย Idol ของใครหลายๆ คนรวมทั้งตัวผมเองด้วย ว่าพอร์ตของท่านก็คงกระทบไปไม่ใช่น้อยๆ เช่นกัน

มาดูกันว่า พอร์ตของท่านกระทบไปเท่าไรบ้าง (อาจจะมีหุ้นตัวอื่นมากกว่านี้นะครับ แต่ผมนึกออกเท่านี้)

AS  ท่านถืออยู่ 2 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 17.50 บาท เมื่อตอนเดือนเมษายน 2012 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 9 บาท กำไรหายไป 17 ล้านบาท

BAFS ท่านถืออยู่ 4 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 28.75 บาท เมื่อตอนเดือนมิถุนายน 2013 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 23 บาท กำไรหายไป 23 ล้านบาท

CPALL  ท่านถืออยู่ 45 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 52 บาท เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 33.50 บาท กำไรหายไป 832.50 ล้านบาท

HMPRO ท่านถืออยู่ 55.7 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 16.90 บาท เมื่อตอนเดือนพฤษภาคม 2013 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 11.20 บาท กำไรหายไป 317.50 ล้านบาท

JMART ท่านถืออยู่ 7 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 30 บาท เมื่อตอนเดือนพฤษภาคม 2013 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 17.80 บาท กำไรหายไป 85.40 ล้านบาท

METCO ท่านถืออยู่ 120,000 หุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 220 บาท เมื่อตอนเดือนกันยายน 2011 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 139 บาท กำไรหายไป 9.72 ล้านบาท

MBK ท่านถืออยู่ 1 ล้านหุ้น หุ้นตัวนี้เคยไปทำ High ที่ 188.50 บาท เมื่อตอนเดือนเมษายน 2012 ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 151.50 บาท กำไรหายไป 37 ล้านบาท

เบ็ดเสร็จแล้ว พอร์ตของท่านดร. มีมูลค่าลดลงไปจากจุดที่หุ้นแต่ละตัวไปทำจุดสูงสุดไว้ประมาณ 1,322.12 ล้านบาท หายไปไม่เท่าไรเองครับ แค่พันสามร้อยกว่าล้านบาทเอง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ดร.นิเวศน์... นักลงทุนผู้มั่งคั่งและมีความสุขเสมอ

ผมเห็นและได้ยินนักลงทุน(หรือป่าว)หลายๆ คนโอดครวญว่าหุ้นตกรอบนี้เจ็บหนักมาก ทุนหายไปเยอะก็มี กำไรหายไปเยอะก็มี บางคนก็ไม่เอาแล้วตลาดหุ้น ยกธงขาวดีกว่า สำหรับตัวผมเองนั้น กำไรในพอร์ตของผมก็ลดลงไปพอสมควร พูดตรงๆ ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันแต่ก็พยายามจะไม่ไปคิดอะไรกับมันมากนักเพราะเราคงไปแก้ไขอดีตหรือย้อนเวลากลับไปไม่ได้

สำหรับ ดร.นิเวศน์ เองนั้น ผมก็ยังติดตามท่านอย่างสม่ำเสมอ ท่านก็ยังเหมือนเดิม ยังพูดจาและมีอารมณ์ขันเหมือนเดิม เวลาดำเนินรายการก็จะยังชอบทำตัวเป็นลูกไล่ แกล้งทำเป็นไม่รู้นู่นนี่เพื่อให้รายการดำเนินไปอย่างสนุกสนาน และก็ยังให้ความรู้ด้านการลงทุน การใช้ชีิวิตอย่างเต็มที่เหมือนเคย

นักลงทุนที่คิดว่าตลาดหุ้นทำไว้แสบ เอาทุนเราไปเยอะ เอากำไรเราไปเยอะ ผมอยากจะฝากไว้ว่ามันเป็นสัจธรรม ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีเกิด มีดับ และเราก็ควบคุมไม่ได้  ผมอยากให้ดูท่านดร.นิเวศน์ ไว้เป็นตัวอย่าง พอร์ตท่านลดลงไปเป็นพันล้าน แต่ท่านก็ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ยังมีความสุขเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าการลงทุนคือชีวิตของท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้เอาการลงทุนมามีอิทธิพลต่อชีวิตของท่านมากจนเกินไป  ผมเชื่อว่าท่านก็คงเสียดายที่พอร์ตของท่านลดลงไปไม่น้อยแหละครับ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ถ้าตลาดหุ้นขึ้นอย่างเดียว ก็คงไม่มีใครมานั่งทำงานให้เมื่อยแล้ว

หวังว่าบทความนี้ จะทำให้ท่านผู้อ่านมีมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ผมเอาพอร์ตของท่านดร. มาเล่า เจตนาของผมต้องการที่จะสื่อให้ท่านผู้อ่านได้รู้ว่า คนระดับอย่าง ดร.นิเวศน์ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะตลาดหุ้นซบเซาไปได้ พอร์ตของท่านก็ได้รับผลกระทบเหมือนกับทุกคนในตลาด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องมีสติ เราต้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ และที่สำคัญที่สุด

อย่าให้การลงทุนในหุ้น มามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของเรามากจนเกินไป จนทำให้ชีวิตของเราไม่มีความสุข ค่อยๆ เดินไปทีละก้าวบนถนนการลงทุนเส้นนี้  หนทางยังอีกยาวไกลครับ

ที่มา http://www.valuezen.com/2013/09/blog-post.html