ชุมชนออนไลน์ หาเพื่อนคุย รวมเกมส์ ดูดวง ฟังเพลง ฟุตบอล ดารา และอีกมากมาย

ไลฟ์สไตล์ => สุขภาพและความงาม => ข้อความที่เริ่มโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:20:31 PM

หัวข้อ: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:20:31 PM
สำหรับคนที่ ตรวจเลือดแล้วเป็น...
รอยช้ำ จ้ำเขียวๆม่วงๆ...
" โบราณ " เค้าเรียกว่า " พรายย้ำ "
หรือ " ฟกช้ำ " ...

ถามผู้รู้ได้คำตอบว่า เส้นเลือดทะลุ มีเลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง
ไม่อันตราย แต่จะมีรอยเขียวค้ำรอบบริเวณที่เจาะ
วงใหญ่บ้างเล็กบ้าง แล้วแต่ว่าเลือดจะซึมมากซึมน้อย
ใช้เวลาหลายวัน โดยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกะมัน
ก็จะหายไปเองครับ...

 :wanwan017:

---------------------------------------------------

ถาม รอยช้ำ จ้ำเขียวๆม่วงๆ ที่เกิดขึ้นเอง เกิดจากอะไร?

เป็นรอยช้ำ เหมือนโดนอะไรมา แต่ไม่ใช่ เพราะเมื่อจับดูจะไม่รู้สึกเจ็บระบมอะไร มันเกิดขึ้นมาเองอย่างไม่มีสาเหตุ จะเป็นเพราะอะไรได้บ้าง...

ตอบ สาเหตุเกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังฝอยฉีกขาด
เลยมองเห็นเป็นจ้ำเขียวๆ
และเลือดที่ออกจะซึมกลับใต้ผิวหนังเองประมาณ7วัน

" โบราณ "
เค้าเรียกว่า " พรายย้ำ "
" ฟกช้ำ "
โดย...............
ไม่ทราบสาเหตุ

ถ้าทานน้ำใบบัวบกจะช่วยให้หายเร็วขึ้น

วิธีป้องกันคือ หมั่นทานวิตามินซีเป็นประจำ
จะช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้น
ที่มา อินเทอร์เน็ต

-------------------------------------------

ถาม คุณหมอคะ รบกวนสอบถามนะคะ

เนื่องจากพี่ชายหนูเค้าจะมีอาการเฉพาะเวลาอาการหนาวค่ะ ไม่ว่าจะหนาวโดยธรรมชาติ หรือ หนาวแอร์ ก็จะมีอาการเป็นจ้ำขาว-แดง ทั้งตัวเรยค่ะ
แค่เป็นจ้ำนะคะ ไม่คัน หรือไม่แสบค่ะ แต่เวลาอากาศปกติก็จะค่อยๆหายอ่ะค่า เป็นมาค่อนข้างนานแล้ว ไม่แน่ใจว่าอาการแบบนี้ร้ายแรงหรือป่าวคะ หรืออันตรายมากไหม ควรต้องทำอย่างไรคะ หรือต้องไปรักษาคะ

รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ

ตอบ -เรียนคุณ Boom

   อาการดังกล่าว เรียกว่า Livedo reticularis เป็นอาการทางผิวหนังอย่างหนึ่งที่พบได้ปกติ เกิดจากการบวมของเส้นเลือดดำขนาดกลางใต้ผิวหนัง เมื่อเจออากาศเย็นๆ จึงเห็นเป็นตาข่ายหรือจ้ำๆสีแดงม่วง มักพบบริเวณขาเป็นส่วนใหญ่ มักไม่มีอาการ เมื่อเจออากาศอุ่นๆ ก็จะหายได้เอง โดยปกติ ไม่ต้องทำการรักษาใดๆ ไม่มีอันตราย เพียงแค่ให้ขาอุ่นก็จะไม่เกิดแล้วคะ แต่หากมีอาการเจ็บ หรือมีแผลอื่นใดร่วมบริเวณ Livedo reticalaris ก็แนะนำให้พบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการแสดงของโรคอื่นที่ตอนแรกอาจจะเห็นเป็นตาข่ายแบบนี้ได้ค่ะ

ที่มา พญ. ปาลิดา นันทินวคุณ
panclinic.com

 :wanwan017:
   
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:22:53 PM
เจาะเลือดทีไร แขนช้ำเป็นจ้ำๆทุกที    

ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
เวลาไปเจาะเลือด หรือบริจาคเลือด
สังเกตตัวเองมานานแล้ว

แม้ว่าพยาบาลจะมือเบาขนาดไหน
ก็จะเป็นรอยเขียวช้ำน่ากลัว

รอยจะเกิดหลังจากเจาะไปได้ประมาณ3 ชั่วโมง
โดยตอนเจาะใหม่ๆจะไม่ช้ำ

และกว่ารอยช้ำจะหาย ใช้เวลาหลายสัปดาห์เลยอ่ะ
เราเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย แง ....
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:24:25 PM
ผมก็เป็นบ่อยๆ เคยถามผู้รู้ได้คำตอบว่าเส้นเลือดทะลุ มีเลือดซึมออกมาใต้ผิวหนังครับ

ไม่อันตรายแต่จะมีรอยเขียวค้ำรอบบริเวณที่เจาะวงใหญ่บ้างเล็กบ้างแล้วแต่ว่าเลือดจะซึมมากซึมน้อย ใช้เวลาหลายวัน

โดยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกะมันก็จะหายไปเองครับ
จากคุณ    : aero_guy
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:24:56 PM
แขนข้างที่เจาะ พยายามอย่าใช้ออกกำลังหรือเกร็งกล้ามเนื้อสัก 24 ชั่วโมง เพื่อมิให้รอยเจาะปริแตก ทำให้เลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง เห็นเป็นรอยช้ำครับ

จากคุณ    : phahurat
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:25:43 PM
หลังเจาะเลือดให้พับแขนเฉยๆ และก็อย่านวดบริเวณที่เจาะ ถ้าเลือดหยุดแล้วซักพักนึง ให้ประคบเย็น แต่ถ้าเจาะเกิน 24 ชม. แล้วเป็นจ้ำเลือดให้ประคบร้อนค่ะ

จากคุณ    : fon_k
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ ธันวาคม 01, 2014, 03:26:29 PM
ตรวจเลือดเป็นทุกทีคะ

บางทีเป็นตั้งนานกว่าจะหาย

จากคุณ    : freeziiberrii
หัวข้อ: Re: ผิวเป็น รอยช้ำ จ้ำ แดง ม่วง!
เริ่มหัวข้อโดย: Adminis ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 04:04:39 PM
ขอสรุปนะครับ เค้าว่า

พรายย้ำจ้ำเขียว เป็นอาการที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายใดๆ หายได้เอง แต่มีข้อเตือนใจว่า หากมีอาการพรายย้ำจ้ำเขียวร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรรีบไปพบแพทย์
1. ไข้
2. ซีด
3. ข้อบวม
4. เลือดออกง่าย หยุดยาก (เทียบกับคนทั่วๆไปก็คงพอบอกได้)
5. มีก้อนที่คอ รักแร้ ขาหนีบ เป็นกลุ่ม ก้อนเหล่านี้คือต่อมน้ำเหลือง
6. ตาพร่ามัวอย่างชัดเจน
7. ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
8. ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน

เครดิต https://www.doctor.or.th/article/detail/5433

 :wanwan017: