ข้อทักท้วงที่ตามมา โดยทันทีก็คือแล้วเช่นนั้นถ้าไม่ทานเนื้อสัตว์มนุษย์ก็จะขาดโปรตีนและไม่แข็งแรง
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว
มนุษย์สามารถหาโปรตีนได้จากถั่วและธัญพืชหลายชนิด
เช่น ธัญพืชมีโปรตีน 8% - 12%
ถั่วเหลืองมีโปรตีน 40% หรือ 2 เท่าของโปรตีนในเนื้อสัตว์
แม้แต่เนื้อสันในที่เชื่อกันว่าดีที่สุด ก็มีโปรตีนที่นำมาใช้ได้เพียง 20% เท่านั้น
ในขณะที่ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆมีโปรตีน 30%
แต่สำหรับคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์นั้น ควรจะต้องตระหนักว่าสัตว์ที่ตกใจกลัวสุดขีด เพราะการถูกฆ่า จะมีสารพิษในร่างกายเกิดขึ้นโดยทันที
เช่น การหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline)
และกรดยูริค (Uric Acid)ซึ่งขับออกมาด้วยความหวาดกลัว
หรือได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ซึ่งภาวะความเป็นพิษเหล่านี้จะกระจายไปทั่วร่างของสัตว์
และตกค้างอยู่ตามเส้นเลือดและเนื้อเยื่อ
และเมื่อย่อยสลายแล้วจะมีความเป็นกรดสูงในร่างกายมนุษย์
สัตว์ตอนโดนฆ่านี่ โอ้โฮ.. มันจะกลัว
มันจะมีอารมณ์ มันจะหลั่งสารเคมีต่างๆหลายอย่าง
ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพของเรานะครับ
แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดการยกระดับจิตใจ
แต่ผักจะไม่มีปฏิกิริยาเหล่านี้ ตรงกันข้าม
มันกลับมีความสุขครับ
เพราะนี่คือ วิธีการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติของมัน
คือการที่เราไปเด็ดไปกิน แล้วเราก็จะทิ้งเม็ด
เม็ดก็คือเมล็ดที่งอกขึ้นใหม่ได้
นี่เป็นการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติ
ต้นไม้ยินดีมากเลย
เพราะเป็นวิธีการขยายพันธุ์ของเขา...
ร่างกายของเราเจริญเติบโตก็ด้วยผัก
ผักมันกลายเป็นเนื้อของเรา
มันกลายเป็นอวัยวะของเรา
มันได้กลายเป็นส่วนที่เป็นมนุษย์
เพราะฉะนั้นพวกผักมันจะรู้สึกดี
ผักไม่มีปฏิกิริยาเชิงลบ
ผักไม่รู้สึกว่ามันโดนฆ่าหรืออะไรทั้งสิ้น
มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเรา
ซึ่งมันเองก็มีความสุข
ชาวเผ่าฮันซ่า คือกลุ่มชนที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย
และปากีสถาน เผ่าโอโตมี่ (ชนพื้นเมืองของเม็กซิโก)
และชนพื้นเมืองในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
มีสุขภาพแข็งแรง มีโรคภัยไข้เจ็บน้อย และโดยเฉลี่ยจะมีอายุยืนถึง 110 ปี
หรือมากกว่านั้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผู้กินอาหารมังสวิรัติ
ในขณะที่ชาวเอสกิโม ซึ่งกินเนื้อสัตว์และไขมันเป็นประจำ จะแก่เร็ว
และมีอายุโดยเฉลี่ย 27 ปีครึ่ง
และในบรรดาชาวเคอกิส คือชนชาติพเนจรในแถวตะวันออกของรัสเซีย
ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก จะมีน้อยคนมากที่มีอายุเกิน 40 ปี
ที่มา manager.co.th